ทำไมคนเราถึงเลิกบุหรี่ไม่ได้ อย่างที่ตั้งใจ?

ทำไมคนเราถึงเลิกบุหรี่ไม่ได้อย่างที่ตั้งใจ?

ทำไมคนเราถึงเลิกบุหรี่ไม่ได้อย่างที่ตั้งใจ?
เป็นที่รู้กันดีว่าการสูบบุหรี่ส่งผลเสียต่อผู้ที่สูบและคนรอบข้าง แต่มันก็ยากเช่นกันที่จะเอาชนะสารเคมีต่างๆ ที่เข้าไปทำงานกับร่างกายและจิตใจ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจะเลิกสูบไม่ได้ แต่ต้องโฟกัสให้มากขึ้นกว่าแค่ความพยายามของตัวเราเพียงอย่างเดียว

ข้อเท็จจริงคือ มีเพียงแค่ 4-7% ของผู้ที่พยายามจะเลิกบุหรี่ที่สามารถหับดิบได้ ทำให้การวางแผนที่เป็นระบบจะช่วยให้การเลิกบุหรี่ประสบความสำเร็จได้ ด้วยวิธีการง่ายๆ ที่สามารถทำร่วมกับการใช้หมากฝรั่งที่มีนิโคตินทดแทนสำหรับการเลิกบุหรี่ คือ กำหนดวันเวลาที่จะเลิกบุหรี่ให้ชัดเจน จับเวลาในการใช้หมากฝรั่งทดแทนให้คุ้นชิน และใส่กิจกรรมการเลิกบุหรี่ลงไปใน To-do-list เพื่อให้เกิดความสำเร็จเล็กๆในทุกวัน
การเลิกบุหรี่เป็นเรื่องยากแต่เป็นไปได้ และความภูมิใจที่ได้กลับมาเป็นสิ่งที่ “ประเมินค่าไม่ได้”

________________________________________

 PART 1 : Introduction 
เป็นที่รู้กันดีว่าการสูบบุหรี่ส่งผลเสียต่อผู้ที่สูบและคนรอบข้าง
แต่มันก็ยากเช่นกันที่จะเอาชนะสารเคมีต่างๆ ที่เข้าไปทำงานกับร่างกายและจิตใจ
ว่ากันว่ามันยากพอๆ กับการวิ่งจบมาราธอนหรือการควบคุมน้ำหนักให้ตัวเองมีซิกแพคเลยหล่ะ
นอกจากนั้น ความเข้าใจของคนรอบข้างก็มีผลอย่างมากที่จะช่วยให้ผู้ที่ติดบุหรี่มีแรงในการเลิก
แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจะเลิกสูบไม่ได้ แต่เราอาจจะต้องโฟกัสให้มากขึ้นกว่าแค่ความพยายามของตัวเราเอง เรามาดูกันว่ามีปัจจัยใดบ้างที่จะช่วยให้การเลิกบุหรี่ของคุณง่ายขึ้น

 PART 2 : Research 
คุณอาจเคยได้ยินเรื่องประมาณว่า “การสูบบุหรี่ 1 ซอง ทำให้ชีวิตผู้สูบบุหรี่สั้นลงประมาณ 2 ชั่วโมง 20 นาที หรือ สูบบุหรี่ 1 มวน ทำให้ชีวิตสั้นลงไป 7 นาที” แต่ในอีกมุมหนึ่ง การสูบบุหรี่ส่งผลต่อคนใกล้ตัวของคุณอย่างเลวร้ายไม่แพ้กันกับเรื่องนี้
การสูบบุหรี่ส่งผลต่อคนใกล้ตัวของคุณอย่างที่คาดไม่ถึง เนื่องจากในบุหรี่มีสารเคมีชนิดต่างๆ กว่า 4,000 ชนิด เช่น น้ำมันดิน (Tar), สารหนู (Arsenic), แอมโมเนีย (Ammonia), ไซยาไนด์ (Cyanide) และอีกมากมาย ส่วนมากจะทำปฎิกิริยากับร่างกายทำให้เกิด”โรคมะเร็ง”ได้
ตัวเลขสามารถบ่งชี้ถึงความอันตรายของควันบุหรี่มือสอง ผลสำรวจจาก American Academy of Pediatrics (AAP) พบผู้โชคร้ายกว่า 3,400 คน เสียชีวิตเพราะโรคมะเร็งตับ และ 22,000-69,000 คน เสียชีวิตเพราะโรคหัวใจ เพียงเพราะอยู่ใกล้กับคนสูบบุหรี่ ส่วนใหญ่ผู้สูบเป็นพ่อ แม่ คนรัก หรือคนในครอบครัวที่มีความใกล้ชิดสนิทสนม
นอกจากนั้น การหายใจรับเอาควันบุหรี่เข้าสู่ร่างกาย ยังเป็นสาเหตุให้เกิดโรคอีกมากมายได้ เช่น โรคหอบหืด การติดเชื้อทางเดินหายใจ ปัญหาปอด หูอักเสบ และอันตรายถึงขนาดทำให้ทารกที่มีอายุต่ำกว่า 1 ปี เสียชีวิตอย่างฉับพลันได้จากการอยู่ใกล้ควันบุหรี่
ถึงจะรู้ว่าส่งผลเสียต่อคนรอบตัวมากแค่ไหน แต่การเลิกบุหรี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะจากผลสำรวจกว่า 90% ผู้คนจะเริ่มสูบบุหรี่ตั้งแต่ก่อนอายุ 18 ปี และเกิดอาการเสพติดจาก ”ความเคยชิน” ที่ต้องสูบบุหรี่เพื่อบรรเทาความเครียด หลังรับประทานอาหาร หรือให้เป็นรางวัลหลังจากทำสิ่งใดสำเร็จลุล่วง จนติดเป็นนิสัย
กว่า 1 ใน 3 ของผู้ที่สูบบุหรี่ก่อนอายุ 18 ปี เกิดโรคร้ายตามมาภายหลังจากการสะสมสารเคมีในร่างกายเป็นเวลานาน และเสียชีวิตลงเพราะเลิกบุหรี่ไม่ได้ในที่สุด
(อ้างอิง:https://www.healthychildren.org/English/health-issues/conditions/tobacco...)

ข้อเท็จจริงคือ มีเพียงแค่ 4-7% ของผู้ที่พยายามจะเลิกบุหรี่ที่จะสามารถหับดิบได้
โดยเฉลี่ยแล้วผู้สูบบุหรี่ต้องใช้ความพยายามจะเลิก 6 ถึง 11 ครั้งโดยเฉลี่ยที่จะทำสำเร็จ เหตุเพราะในทุกครั้งที่พยายามเลิกและตั้งเป้าอยู่ในใจของตัวเอง มันง่ายมากที่จะผิดสัญญา เพราะนั่นไม่ได้ส่งผลต่อใครเลยนอกจากตัวเอง
(อ้างอิง :https://www.quitterscircle.com/how-to-quit/why-is-it-so-hard-to-quit-smo...)

เมื่อทำการสูบบุหรี่ นิโคตินในสมองจะเข้าไปกระตุ้นสารโดพามีน (Dopamine) ออกมาผลลัพธ์คือ อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น แรงดันโลหิตเพิ่มขึ้นผู้สูบจะรู้สึกถึงความพึงพอใจและสงบ
น่าเสียดายที่หลังจากการหลั่งโดพามีนหมดไปอาการอยากเหล่านี้จะกลับคืนมาพร้อมกับความอยากบุหรี่ เมื่อไม่ได้สูบตามที่ต้องการเป็นเวลานานก็จะเกิดความหงุดหงิด ไปจนถึงอาการหวาดวิตกและเซื่องซึมได้
(อ้างอิง :https://www.ranker.com/list/dopamine-facts/richard-rowe)

กลับกัน หากมีการสนับสนุนจากผู้ให้บริการทางด้านสุขภาพ คนรัก ครอบครัว หรือตัวช่วยทางการแพทย์ในการเลิกบุหรี่ และค่อยๆลดการสูบไปเป็นลำดับเหมือนการฝึกซ้อมทำอะไรบางอย่าง จะส่งผลให้คุณมีโอกาสเพิ่มถึงขึ้นถึง 50% ที่จะทำสำเร็จ
(อ้างอิง :https://www.quitterscircle.com/how-to-quit/why-is-it-so-hard-to-quit-smo...)

 PART 3 : Inspiration Case 
หลายคนอาจไม่เคยรู้ว่า บารัค โอบามา อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ เคยเป็นคนที่ติดบุหรี่และเลิกไม่ได้อยู่เป็นเวลานาน
เขาเริ่มสูบบุหรี่ตั้งแต่วัยรุ่น และด้วยภาระหน้าที่ของเขาที่ต้องเข้าสังคมเป็นประจำ ทำให้เขาติดกับการสูบบุหรี่ แม้จะมีความพยายามเลิกอยู่หลายครั้ง แต่ความเครียดจากการทำงานก็ทำให้เขากลับมาพึ่งมันอยู่เสมอ
ด้านมิเชลล์ โอบามา ภรรยาของเขาไม่ค่อยพอใจนักที่บารัคติดบุหรี่ ด้วยความเป็นห่วงสุขภาพของสามีทำให้เธอช่วยเขาหาทางออกโดยให้โอบามา เริ่มใช้หมากฝรั่งที่มีนิโคตินทดแทน แบรนด์ดังจากอเมริกา เพื่อช่วยลดอาการอยากสูบบุหรี่เพราะจริงๆ แล้ว สารนิโคตินแค่ทำให้คนเสพติดมีความสุขในระยะเวลาสั้นๆ แต่สิ่งที่อันตรายจริงๆ คือสารอื่นๆ ในบุหรี่มากกว่า
เขาค่อยๆ ลดจำนวนมวนที่สูบอย่างเป็นขั้นตอนไม่เร่งรัด และคอยให้กำลังใจอยู่เสมอพร้อมกับลูกๆของพวกเขา
จนถึงปัจจุบัน บารัคเลิกบุหรี่มาแล้วกว่า 10 ปี และมักนำเรื่องราวเหล่านี้ไปพูดเพื่อให้กำลังใจแก่ผู้ที่อยากเลิกบุหรี่ทุกคนที่กำลังประสบปัญหาเดียวกับเขาเมื่อก่อน “ฉันไม่ได้สูบบุหรี่... นั่นเป็นเพราะฉันกลัวภรรยาของฉัน” โอบามากล่าวติดตลก

 *วิธีการเลิกบุหรี่อย่างมีประสิทธิภาพ* 

การวางแผนที่เป็นระบบจะช่วยให้การเลิกบุหรี่ประสบความสำเร็จได้ ด้วยวิธีการง่ายๆ 3 ข้อที่สามารถทำร่วมกับการใช้หมากฝรั่งที่มีนิโคตินทดแทนสำหรับการเลิกบุหรี่ ดังนี้
1. กำหนดวันเวลาที่จะเลิกบุหรี่ให้ชัดเจน และเริ่มเปลี่ยนมาเคี้ยวหมากฝรั่งแทนการสูบบุหรี่
2. ใช้การจับเวลาช่วยในการใช้หมากฝรั่ง เช่น เคี้ยว 1 ชิ้นทุก 1-2 ชั่วโมงในช่วง 6 สัปดาห์แรก จนเริ่มคุ้นชินกับเวลา เพื่อทดแทนการสูบบุหรี่
3. การใช้แอปพลิเคชันเป็นตัวช่วย เช่น ใส่กิจกรรมการเลิกบุหรี่ลงไปใน To-do-list เพื่อให้เกิดความสำเร็จเล็กๆในทุกวัน
นอกจากความแน่วแน่ที่ต้องการเลิกบุหรี่แล้ว สิ่งต่างๆ รอบตัวมีผลไม่แพ้กัน ครอบครัว คนรัก ประกอบกับการให้หมากฝรั่งสำหรับเคี้ยวให้สารนิโคตินทดแทน เป็นตัวช่วยสำหรับผู้ที่อยากเลิกบุหรี่ ลดปฎิกิริยาในร่างกายที่เกิดจากอาการอยากสูบบุหรี่ ที่คอยสนับสนุนช่วยให้การไปถึงเป้าหมายมีความหมายมากขึ้น

 PART 4 : Outro 
เป็นที่รู้กันดีว่าทุกๆการเปลี่ยนแปลงมักจะยากเสมอตอนเริ่มต้น แต่หากมีความสม่ำเสมอและให้ความสำคัญกับปัจจัยรอบตัวจะช่วยให้สำเร็จตามเป้าหมายได้มากขึ้นเพราะการเลิกบุหรี่เป็นเรื่องยากแต่เป็นไปได้ และความภูมิใจที่ได้กลับมาเป็นสิ่งที่ “ประเมินค่าไม่ได้”
________________________________________

Youtube :

Spotify :